ชี้แจงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชี

14 พ.ค. 2550
ที่ ACC.006/50 วันที่ 14 พฤษภาคม 2550 เรื่อง ชี้แจงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีเงินลงทุน เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากการที่สภาวิชาชีพได้ออกประกาศสภาวิชาชีพบัญชีฉบับที่ 26/2549 เรื่องการปฏิบัติวิธีการบัญชีตามมาตรฐาน การบัญชีฉบับที่ 44 เรื่องงบการเงินรวมและการบัญชีสำหรับเงินลงทุนในบริษัทย่อย กำหนดให้บริษัทเปลี่ยนแปลงวิธีการ บันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะของบริษัทจาก วิธีส่วนได้เสียเป็น วิธีราคาทุน ซึ่งมี ผลทำให้กำไรและกำไรสะสมในงบการเงินเฉพาะและงบการเงินรวมต่างกัน ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นเพียง การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีเท่านั้น มิได้ทำให้ปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมถึงผลกระทบจากนโยบายบัญชีการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยดังนี้ บริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบันทึกบัญชีของเงินลงทุนในบริษัทย่อยในงบการเงินเฉพาะกิจการจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธี ราคาทุนในไตรมาสที่ 1/2550 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2550 เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดใหม่ของมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 44 โดยบริษัทฯได้ปรับปรุงย้อนหลังงบการเงินที่แสดงเปรียบเทียบด้วย ทั้งนี้เงินลงทุนในบริษัทย่อยที่แสดงอยู่ในงบ การเงินเฉพาะกิจการนั้นบันทึกโดยใช้ราคาทุนเดิม (Historical Cost) เป็นราคาทุนเริ่มต้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลง นโยบายดังกล่าวทำให้กำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะกิจการไม่เท่ากับกำไรสุทธิในงบการเงินรวม โดยงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2550 งบการเงินรวมมีกำไรสุทธิ 1.32 ล้านบาท แต่งบการเงินเฉพาะกิจการมีกำไรสุทธิ 0.36 ล้านบาท และบริษัทฯ ขอชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้ 1.การเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีดังกล่าว ทำให้งบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่31 มีนาคม 2550 แสดงกำไรสุทธิ จำนวน 0.36 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลงลดลงจำนวน 0.96 ล้านบาทและงบการเงิน เฉพาะกิจการสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2549 แสดงกำไรสุทธิ 13.24 ล้านบาท จากกำไร 19.73 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลงลดลงจำนวน 6.49 ล้านบาท (คิดเป็นลดลง 0.01 บาทต่อหุ้น และ0.05 บาทต่อหุ้น ตาม ลำดับ) เนื่องจากงบการเงินเฉพาะกิจการไม่ได้รวมรายการส่วนแบ่งกำไร(ขาดทุน) จากเงินลงทุน ซึ่งบันทึกโดยวิธี ส่วนได้เสีย 2.ผลกระทบต่อรายการอื่นในงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2550 ได้แก่ กำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรในงบการเงินรวม จากกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรจำนวน 140.93 ล้านบาท เป็นกำไรที่ยังไม่ จัดสรรในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทจำนวน 46.20 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลงลดลงจำนวน 94.73 ล้านบาท ทั้งนี้ผลสะสมของการเปลี่ยนแปลงหลักการบัญชีนี้ได้แสดงไว้ใน "ผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีเกี่ยวกับเงิน ลงทุนในบริษัทย่อยในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ" ในงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นเฉพาะกิจการ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าวส่งผลต่อการแสดงรายการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุน ในบริษัทย่อยในงบการเงินเฉพาะกิจการเท่านั้น ไม่ได้มีผลกระทบต่อการจัดทำงบการเงินรวมและปัจจัยพื้นฐานการทำ ธุรกิจของบริษัทฯแต่อย่างใด จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายนพดล ตัณศลารักษ์) กรรมการ (นายพิเชษฐ มณีรัตนะพร) กรรมการ